ทำงานไหนดี?


เกี่ยวกับ Work and Travel Program
Episode 04 : ทำงานไหนดี?
ทำงานอะไรที่ไหนดี!?!?! 
การเลือกงานควรจะต้องพิจราณาข้อมูลต่างๆเหล่านี้
  • ลักษณะงานเป็นแบบใหน
  • อยู่ส่วนใหนของอเมริกา
  • ที่พักเป็นยังไง
  • หาSecond Job ได้หรือเปล่า
  • จากนั้นก็ดูว่าทำแล้วคุ้มไหม
  • อากาศเป็นอย่างไร
ไปหาคำตอบกันดีกว่าครับ

1.ลักษณะงานเป็นแบบใหน 
         งานแต่ละงานของโครงการ Work and Travel จะเป็นงานที่หนักเอาการเลยนะครับเพราะฉนั่นก็ควรที่จะเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ซึ่งลักษณะงานผมขอแบ่งเป็นประเภทต่างๆดังนี้ครับ
  • ทำความสะอาด : Housekeeping, Ground Cleaner
  • ทำครัว : Dishwasher, Kitchen Help
  • บริการ : Waiter,Game Entertainer, Cashier, Food Service, Maintenace, Sele, Ride operator,
  • อื่นๆ : Life guard, farmer 
มาดูว่ากันครับว่างานแต่ละงานเขาทำกันประมาณใหน?

Housekeeping : งานแม่บ้านในโรงแรมหรือรีสอร์ท แผนกแม่บ้านรับผิดชอบความสะอาดเรียบร้อยของที่พัก มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องพักและเฟอร์นิเจอร์ที่มีไว้ให้บริการในห้องพัก ของแขก ซึ่งได้แก่ ห้องนอน ห้องนั่งเล่นหรือห้องชุด ห้องน้ำ, ดูดฝุ่น, ทิ้งขยะ ตลอดจนถึงทำความสะอาดทางเดินหน้าห้องพักแขกด้วย พนักงานแผนกนี้จะต้องทำความสะอาดห้องพักแขก 8-10 ห้องต่อวัน หรือ โรงแรมบางแห่งอาจต้องทำไม่ต่ำกว่า 15-20 ห้องต่อวันในช่วงแขกเต็ม

Kitchen Help : ผู้ช่วยงานในครัว
งานในตำแหน่งนี้ไม่ได้หมายถึงเป็นผู้ช่วยพ่อครัวหรือแม่ครัวประกอบอาหาร หน้าที่หลักคือ ทำความสะอาดในครัว ถูพื้น ทิ้งขยะ ล้างเครื่องมือประกอบการทำอาหาร บางแห่งอาจต้องทำหน้าที่เป็นผู้ล้างจานด้วยอาจได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ช่วยพ่อครัวในการเตรียมวัตถุดิบในการประกอบอาหารง่ายๆ เช่นจัดโต๊ะสลัดบาร์ แต่ส่วนใหญ่นักศึกษาไทยจะได้รับทำหน้าที่นี้น้อยมากเพราะทักษะในการหั่นผักหรือปอกเปลือกพืชผักสวนครัวของเราจะต่างจากชาติตะวันตก แต่ถ้าเป็นนักศึกษาที่เรียนด้านการโรงแรมโดยเฉพาะเรียนด้านทำอาหารอาจทำได้ หากมีประสบการณ์เคยฝึกงานมาก่อน

Maintenance : งานซ่อมแซมทั่วไป
งานในตำแหน่งนี้ ส่วนใหญ่จะรับนักศึกษาชายเพราะเป็นงานที่ต้องใช้แรง ตำแหน่งนี้จะมีในสวนสนุก, สวนน้ำ, บริษัททำความสะอาดสระน้ำ, โรงแรมหรือ รีสอร์ท หน้าที่โดยทั่วไปก็จะเป็นงานซ่อมแซมทั่วไป เปลี่ยนหลอดไฟ ย้ายของ ขนของ ทำความสะอาดกลางแจ้ง เป็นผู้ช่วยแผนกช่างหรือแม่บ้านในโรงแรมหรือ รีสอร์ท หรือซ่อมสระน้ำ เป็นต้น

Sales Help : งานขายของหน้าร้าน, งานฟาสต์ฟู้ต, งานแคชเชียร์
งานในตำแหน่งนี้จะรวมถึงงานของพนักงานในร้านฟาสต์ฟู้ต, ร้านสะดวกซื้อ, พนักงานขายในสโตร์ หรือพนักงานขายของที่ระลึก หน้าที่โดยส่วนใหญ่จะต้องพบปะลูกค้า ดังนั้นต้องมีสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี 

Amusement Park Work : งานสวนสนุก
งานในตำแหน่งนี้เป็นงานในสวนสนุก ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลากหลายแผนก มี่ตั้งแต่พนักงานขายตั๋ว, พนักงานขายอาหาร, พนักงานเสริฟ์อาหาร, พนักงานคุมเครื่องเล่นเกม, พนักงานภาคพื้นสนามทั่วไปส่วนใหญ่ตำแหน่งงานจะได้รับทราบเมื่อเดินทางไปถึงสถานที่ทำงานแล้ว งานในสวนสนุกส่วนใหญ่จะเป็นงานกลางแจ้งผู้ที่เลือกทำงานในสวนสนุกต้องไม่มีปัญหากับการทำงานกลางแดดและอากาศร้อน

SPECIAL JOBS: ตำแหน่งงานอื่นๆ เช่น
  • Front/Clerk พนักงานต้อนรับ/เสมียนในโรงแรมหรือรีสอร์ท ต้องเป็นผู้ที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก มีประสบการณ์ในการทำงานด้านการโรงแรมในตำแหน่งนี้มาก่อนจึงจะได้รับการพิจารณา
  • Life Guard คนดูแลสระน้ำในโรงแรม, รีสอร์ท, สวนสนุก หน้าที่นี้ต้องผ่านการอบรม หลังจากนั้นต้องสอบผ่านข้อเขียน, สอบว่ายน้ำตั้งแต่ 50 เมตรขึ้นไปเพื่อให้ได้รับใบอนุญาต (Life Guard Certificate) ก่อนที่จะเริ่มงาน ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องรับผิดชอบค่า Train และค่าสอบ Certificate เอง เมื่อสอบผ่านได้รับใบอนุญาตแล้วจึงจะสามารถเข้าทำงานในตำแหน่งนี้ได้
  • Photographer พนักงานถ่ายรูป ส่วนใหญ่จะเป็นงานของบริษัทที่ได้รับสัมปทานในสวนสนุกมีชื่อเสียงต่างๆ ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาให้ทำงานในตำแหน่งนี้ต้อง เป็นผู้ที่มีทักษะด้านการขาย สื่อสารภาษาอังกฤษดีถึงดีมาก สามารถทำงานกลางแจ้งทนอากาศร้อนได้ 
  • Groundkeeper พนักงานดูแลความสะอาดบริเวณสวนหย่อมในบริเวณรีสอร์ทหรือในสวนสนุก สามารถทำงานหนัก ทำงานกลางแจ้งและทนอากาศร้อนได้

2.อยู่ส่วนใหนของอเมริกา, ที่พักเป็นยังไง, หาSecond Job ได้หรือเปล่า,ทำแล้วคุ้มไหม ?
อเมริกามีทั้งหมด 50 รัฐ สถานที่ทำงานก็จะมีแล้วแต่เมืองในรัฐนั้นๆ ถ้าแบ่งตามลักษณะของสถานที่ก็แบ่งได้ 3 ส่วนใหญ่ๆคือ
- กลางเมืองใหญ่
- เมืองเล็ก(ชนบท)
- อุทยานแห่งชาติ
ไปดูรายละเอียดกัน


2.1. กลางเมืองใหญ่หรือเมืองที่มีชื่อเสียง เช่น นิวยอร์, บอสตัน ดีซีและชิคาโก ฮาวาย ชิคาโก ซานฟรานซิโก วอชิงตันดีซี เป็นต้น (แต่บางทีชื่อฟังดูเหมือนเป็นเมืองใหญ่ แต่อาจะอยู่นอกเขตเทศบาลก็ได้นะ อย่าลืมตรวจสอบดูดีดีว่าที่ทำงานเราอยู่ตรงใหนของเมือง)
สถานที่ทำงาน : Restaurant, Fast food, Hotel, Souvenir shop
ตำแหน่งงาน: Waiter, Dishwasher, Food Service, Housekeeping(Hotel), Cashier
ข้อดี
  • อยู่ในเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดัง ก็ทำให้เราได้เที่ยวไปด้วย กำไรสองต่อ
  • Shopping สดวก
  • หา Second Job ง่าย
ข้อเสีย
  • พี่พักราคาแพง ประมาณ 70-100 USD/Week
  • เกิดความแออัดในสถานที่พักเนื่องจากจะต้องแชร์ค่าเช่า....อย่าลืมตรวจสอบด้วยนะครับว่าเขาจะให้อยู่บ้านละกี่คน....คนเยอะปัญหาเยอะนะพี่น้องงงงง
  • บางที่หา Second Job อาจจะยากเนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยว(High Season) เป็นช่วงๆไม่ตลอดปี แม้แต่งานหลักที่เราทำอาจโดนตัวชั่วโมงก็ได้....เพราะฉนั้นตรวจสอบดีดีดีดี
  • *****ที่นิวยอร์กช่วงเดือนมีนาคมสภาพอากาศยังหนาวอยู่และทะเลยังมีน้ำแข็งลอยเป็นบางส่วนทำให้บริษัทธุรกิจท่องเที่ยวปิดช่วงคราว ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาน้อย*******
  • ความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ด้วยความที่สังคมอเมริกาเป็นคนเร่งรีบ ทำให้ผู้คนดูเหมือนไม่เป็นมิตรกับเรามากนัก

2.2 อยู่ในเมืองเล็กๆหรือชนบท เป็นเมืองเล็กๆที่ไม่มีธุรกิจใหญ่มากนัก แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆหรืออาจจะห่างจากตัวเมืองไปหน่อยนึง
สถานที่ทำงาน : Amusement park, Water park, Restaurant, Fast food, Hotel, Souvenir shop, Casino
ตำแหน่งงาน: Ride operator, Ground Cleaner,Game Entertainer, Life guard, Food Service, Waiter, Dishwasher, Housekeeping(Hotel), Cashier
ข้อดี

  • เมืองลักษณะเรียบง่ายและสงบ 
  • มีโอกาสหางาน Second Job ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กแต่ก็มีงานธุรกิจอื่นที่ต้องการจ้างงานเช่นเดียวกับเมืองใหญ่
  • ยังมีแหล่งให้ซื้อของอยู่บ้าง เช่น ห้าง Wal mart หรือ Outlet แต่ไม่มากเหมือนเมืองใหญ่
ข้อเสีย
  • ที่พักอาจไกลจากที่ทำงานมากหรือการเดินทางไปเที่ยวแหล่งใกล้ๆอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร 
  • บางที่หา Second Job อาจจะยากเนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยว(High Season) เป็นช่วงๆไม่ตลอดปี แม้แต่งานหลักที่เราทำอาจโดนตัวชั่วโมงก็ได้อาจจะโดนหักมากกว่าเมืองใหญ่อีกเนื่องจากลูกค้าน้อย....เพราะฉนั้นตรวจสอบดีดีดีดีด 
  • ที่พักแออัด ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเมืองชนบทก็มีโอกาสที่จะอยู่กันอย่างแออัดได้


2.3.ในแหล่งอุทยานแห่งชาติ เช่น Grand canyon, Yellowstone, Zion เป็นต้น
สถานที่ทำงาน : Hotel
ตำแหน่งงาน : Housekeeping, Waiter, Host, Dish Washer, Kitchen crew,Food service, Cashier
ข้อดี

  • ที่พักมีราคาถูกมาก อยู่ที่สัปดาห์ละ 15-20 USD/Week และมีค่าอาหารซึ่งอยู่ที่สัปดาห์ละ 70-80 USD/Week ซึ่งอาหารจะเป็นแบบบุพเฟ่ต์เติมได้ไม่อั้น โดยนายจ้างจะเป็นคนหักจากเงินเดือนของเรา และที่พักค่อนข้างจะอยู่ใกล้ที่ทำงานใช้เวลาเดินเท้าอย่างน้อย 10 นาที
  • ที่พักไม่มีความแออัดเกินไป 
  • ถึงแม้ว่าจะไม่มี Second Job แต่ก็สามารถทดแทนด้วยจำนวนชั่วโมงงานได้หรืออาจจะได้ไปช่วยทำตำแหน่งอื่น
  • ได้เที่ยวสถานที่แปลกใหม่ ได้ท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติของอุทยานในอเมริกา
ข้อเสีย
  • อาจหารที่นายจ้างจัดให้อาจไม่ถูกปาก จำเจ กินจนเบื่อ
  • บางช่วงของอุทยานอาจจะยังไม่ถึงฤดูท่องเที่ยวอาจจะทำให้มีจำนวนชั่วโมงงานน้อยลงมา
  • การเดินทางออกไปเที่ยวในเมืองลำบากกว่ามาก ที่นี้จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบซื้อของหรือชอบแสงสีในเมือง ….....แนะนำให้ตีซี้กับเพื่อนฝรั่งที่มีรถส่วนตัว 555

3.อากาศเป็นอย่างไร.....ควรตรวจสอบให้ดีครับ จะได้เตรียมเครื่องแต่งกายได้ถูกครับ
         ประเทศสหรัฐอเมริกาแบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล ประกอบด้วยฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ ลักษณะอุณหภูมิโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น

ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน – พฤศจิกายน
ฤดูหนาว : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม – พฤษภาคม




จบแล้วครับ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณครับ

อย่าลืมติดตาม
"เกี่ยวกับ Work and Travel Program Episode 05" กันต่อนะครับ




Follow                      Like                       Follow 

ฉลาดแลกเงิน

เกี่ยวกับ Work and Travel Program
Episode 03 : ฉลาดแลกเงิน
(การแลกเงินที่ประตูน้ำ)

         ถ้าใครได้ลองศึกษาการแลกเงินมาบ้างก็จะเคยได้ยินเกี่ยวกับการแลกเงินที่ประตูน้ำครับ....เหมือนผม เขาว่ากันว่าได้อัตราดีกว่าธนาคาร....ประตูน้ำ !?!?! ฟังเหมือนจะเถื่อนๆหวะ แต่พอได้ลองศึกษาก็เห็นว่าเขาน่าเชื่อถือดีครับ เลยไปจัดมาเรียบร้อยละ ไปหลงด้วย ปวดตับมาก!! วันนี้เลยเอามาแถลงให้เห็นชัดกันว่ามันอะไรยังไงคร๊าฟฟพี่น้องงง :D



1. แลกเงินที่ประตูน้ำดีกว่าธนาคารจริงใหม?
          ร้านแลกเงินที่ประตูน้ำมี 2 เจ้าใหญ่ซึ่ง”แบ่งออกเป็น 2 สี”(กร๊ากก!!!ไม่พ้นการแบ่งสีเน้อบ้านเรา...แต่ผมก็ชอบ 555+) ขอเรียกว่าบ้านส้มกับบ้านเขียวละกันง่ายดี
  • เขาว่ากันว่าบ้านเขียวได้อัตราดีกว่าบ้านสีส้มมม ? 
  • เขาว่ากันว่าทั้ง 2 บ้านได้อัตราดีกว่าธนาคาร ? 
  • เขาว่ากันว่าพนักงานบ้านเขียวหนังหน้าโหด บ้านส้มบริการดีกว่า 
  • เขาว่ากันว่าทั้งสองบ้านเป็นญาติกัน ตีกันแล้วก็แบ่งสี......ฟังดูคุ้มๆเนอะ
>>>มาดูกันครับว่าอะไรยังไงทำไม<<<
(ขอมูลที่ผมแสดงเป็นข้อมูลที่ผมได้มาวันนี้นะครับ 26 กุมภาพันธ์ 2555 )
"คลิกที่รูปเพื่อดูข้อมูลupdateจากเว็ป" 

บ้านเขียว(Superrichthailand) 

บ้านส้ม(Superrich1965) 
กรุงศรี
ไทยพาณิชย์
กรุงไทย
กรุงเทพ
UOB
สรุปคือ : 
  • บ้านเขียวได้อัตราดีกว่าบ้านส้ม 
  • ทั้งสองบ้านราคาก็ไม่ต่างจากธนาคารมากนัก 
****เพราะฉนั้น 
  • แลกที่ธนาคารถ้าแลกจำนวนไม่มากนัก 
  • หรือไปแลกที่อเมริกเลยก็ได้ครับน่าจะได้อัตราดีครับ****รอไปแลกข้างนอกสนามบินนะครับส่วนใหญ่จะอัตราดีกว่าสนามบิน 
  • แลกที่บ้านส้มหรือเขียวตอนกลับมาไทย(เพราะคาดว่าทุกคนจะมีเงิน USD กลับมาเยอะ...ถ้าไม่ขาดทุนหรือเที่ยวหมด :)
  • แต่อย่างไรก็ตาม ก็ลองคำนวณเรื่่องค่าเดินทาง ค่าเสียเวลาว่า มันคุ้มกับการมา บ้านส้มเขียวหรือเปล่านะครับ.........(ขอบคุณพี่ตาลที่ช่วยแนะความคิดเห็นครับ :)
2.ตกเลือกสีใหนดี? : เลือกที่อัตราแลกเปลี่ยนต่ำสุดอะคับ :)
บ้านเขียวจะมีเพียงสาขาเดียว
ส่วนบ้านส้มมีหลานสาขา แนะนำให้ไปสาขาใหญ่(อยู่ตรงข้ามกับบ้านเขียวดังภาพ) 
อัตราการแลกเปลี่ยนจะดีกว่าสาขาย่อย....มานต้องแข่งกะสีเขียวฝั่งตรงข้ามงะ!
ประสบการณ์ : ผมกะจะไปแลกที่บ้านเขียวครับเพราะว่าตรวจสอบไว้แล้วว่าบ้านเขียวให้อัตราดีกว่านิดนึง แต่พอไปถึงบ้านเขียวคนเป็นล้านเลยครับ...ผมเลยเอาวะแลกต่ำกว่านิดหน่อยก็ได้หวะ ไปบ้านส้มลูกค้ามีอยู่ 5 คนครับแต่อัตราเท่ากันกร๊ากก.... I was like *uck yeahhhhh !!!! ;D

--- โทรไปถามก่อนก็ได้นะครับ เพราะราคาเขา Update ทุกวันเลย 
บ้านเขียว 02-254-4444 : เปิด จันทร์-ศุกร์ 9.00-18.00(วันเสาร์ 9.00-16.00น.)
บ้านส้ม 02-655-2488 : เปิด จันทร์ - เสาร์ เวลา 9.00 - 18.00 น. 

2.ไปยังไงหละ?
มาดูแผนที่กันครับ
ขั้นแรก หาทางมาตรงบิ๊กซี ราชดำริ ตรงข้าม เซ็นทรัลเวิลด์
หันหน้าเข้าบิ๊กซี หันหลังให้เซ็นทรัลเวิลด์ ให้เดินไปทางซ้ายมือ ย้อนไปทางประตูน้ำ 
เดินเข้าซอย ราชดำริ2
"คลิกที่รูปเพื่อดู Google Map"
จัด3D มาให้ด้วย เอาให้ชัดๆ
ถ้าใครขับรถดูแผนที่นี้ครับคลิกภาพด้านล่างนะครับว่าขับไปยังไง
"คลิกที่รูปเพื่อดูAnimation การวิ่งของรถ" 
(ผมไม่ได้ดูไป หลงมันส์เลยพะยะคะ) 
ถ้าใครกลัวหลงก็ทำแบบผมก็ได้นะครับคือไปจอรถที่ธนาคารไทยภานิชย์สาขาใหญ่ๆอะ แล้วก็ไปฝากเงินเข้าบัญชี จอดรถฟรี 555+ ฉลาดค๊ออดๆ




จบบริบูรณ์เรื่องการแลกเงินครับ
ขอบคุณคุณที่สละเวลามาอ่านกันครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
- Tom

:: ควมเดิมตอนที่แล้ว ::
    



อย่าลืมติดตาม
"เกี่ยวกับ Work and Travel Program Episode 04" กันต่อนะครับ



Follow                      Like                       Follow 
กลับหน้าหลัก
(คลิก X มุมขวาบน..โหลดไวกว่า)


How to view my blog


วีธีดูบล๊อกของครับผม



1.วีธีเข้า


2. วีธีออก(กลับสู่หน้าหลัก)

Done WooHoo!!!

ขอบคุณที่ติดตามคร๊าฟฟฟ
-Tom


Follow                      Like                       Follow 

What does the world think about Thailand

สิ่งที่คนทั่วโลกคิดเกี่ยวกับเรา....(ขำขำนะอย่าคิกมากก)




Follow                      Like                       Follow 


คำถามคาใจ

เกี่ยวกับ Work and Travel Program Episode 02 : คำถามคาใจ

1.โครงการ Work and Travel คืออะไร?
  โครงการ Summer Work & Travel USA เป็นโครงการแลกเปลี่ยนที่อยู่ในความดูแลของ U.S. Department of State for the Work and Travel Program, Office of Exchange Coordination and Designation, Bureau of Educational and Cultural Affairs และดำเนินการภายใต้กฎบัญญัติความร่วมมือทางการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ฉบับแก้ไข ปี 1961 [Mutual Educational and Cultural Exchange Act of 1961] 
           โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้ไปเรียนรู้การทำงาน ฝึกภาษาและวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้โอกาสนักศึกษาได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน 
            ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีสถานภาพเป็นนักศึกษา โดยนักศึกษา จะถือวีซ่าประเภทนักเรียนแลกเปลี่ยน (J – 1 Visa)



2.ไปได้นานแค่ใหน?
สามารถไปได้สูงสุด 5 เดือน โดยที่
- ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย4 เดือน
- เที่ยวต่อได้ดี 1 เดือน(30 วัน)
- แต่ต้องอยู่ภายในช่วงเวลาปิดภาคเรียน........ดังนั้นนักเรียนไทยส่วนใหญ่จึงไปได้ 3 เดือน ตามช่วงเวลาของการปิดภาคเรียน

3.ไปได้ช่วงใหนบ้าง
สถานฑูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยแบ่งช่วงโครงการออกเป็น 2 ช่วง ตามการปิดภาคเรียนในประเทศไทย
1. มีนาคม - มิถุนายน(สูงสุด 5 กรกฎาคม) +เที่ยวต่อ 30 วัน....สำหรับมหาลัยทั่วไป
2. พฤษภาคม - สิงหาคม(สูงสุด 31 สิงหาคม) + เที่ยวต่อ 30 วัน......สำหรับหาลัยอินเตอร์

4. ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

  • มีสถานภาพโสด
  • ถือสัญชาติไทยมีสภานภาพเป็นนักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 1-4 หรือ ปริญญาโท
  • อายุระหว่าง 18-28ปี
  • มีเกรดเฉลี่ยตามเกณฑ์ที่บริษัทเอเจนซี่กำหนดคืออยู่ในช่วง 2.00-2.50 ขึ้นไป
  • ไม่ควรมีติดเรียนในภาคฤดูร้อนคือ ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม สำหรับนักศึกษาภาคปกติ
  • ใช้ภาษาอังกฤษที่พอสื่อสารได้
  • มีมนุษยสัมพันธ์ดีและมีความอดทน
  • พร้อมที่จะลุยและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆกับชีวิตในต่างแดน.....WooHoo!!
5. ค่าใช้จ่าประมาณเท่าไร?         ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ โดยมากเอเจนซี่ส่วนใหญ่มักจะเสนอราคาโปรโมชั่นต่างๆในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม แต่บางครั้งราคาโครงการอาจถูกเกินเช่น บางบริษัทบอกค่าโครงการอยู่ที่ไม่เกินสามหมื่นบาทแต่ยังไม่ได้รวมค่าอื่นๆอย่างค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์วีซ่า ค่าสัมภาษณ์กับทางบริษัทเบื้องต้น ฯลฯ ทำให้ค่าโครงการกลายเป็นสี่หมื่นกว่าหรือเกือบห้าหมื่น และเงื่อนไขการคืนเงินกรณีที่มีเหตุไม่สามารถเข้าร่วมโครงการแต่ได้ชำระเงินไปแล้ว ควรจะสอบถามให้ชัดเจน โดยมากแล้วค่าใช้จ่ายหลักๆที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทเอเจนซี่ที่ไทยมดีดังนี้ครับ

  • ค่าสมัครเบื้องต้น โดยมากจะอยู่ที่ 3,000-5,000 บาท (แล้วแต่บริษัทและช่วงโปรโมชั่น)
  • ค่าโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 34,000-40,000 บาท (แล้วแต่บริษัทและโปรโมชั่น)
  • ค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์กับสถานทูต ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท
  • ค่า SEVIS (อาจจะรวมอยู่ในค่าโครงการแล้ว)
  • ค่ามัดจำและค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างตามแต่ละรัฐที่เราต้องการไป(สำหรับคนที่ต้องการให้ทางบริษัทเอเจนซี่จองตั๋วเครื่องบินให้)...ซึ่งควรจะต้องตรวจสอบราคาตั๋วเครื่งบินให้ดีว่าเอเจนซี่โก่งค่าเครื่องจนแพงเกินราคาหรือเปล่า >>>ข้อมูลเพิ่มเติม<<<
6. ขั้นตอนการสมัครมีอะไรบ้าง?
  1. ศึกษา ศึกษา ศึกษา ศึกษา ศึกษา ขอมูลต่างๆ เยอๆๆๆ เพื่อเลือกเอเจนซี่ และงานที่ชอบและดีที่สุด
  2. เตรียมเอกสารทำ Visa โดยที่เอเจนซี่จะบอกว่าเราต้องเตรียมอะไรบ้างไม่ต้องกังวนเรื่องนี้ แต่เองสารที่เราสามารเตรียมเอาไว้เลยเมื่อตัดสินใจที่จะร่วมโครงการคือ
    1. ใบรับรองนักศีกษา
    2. ใบเกรด
  3. จ่ายเงินคร๊าฟฟฟฟฟ
  4. เตรียมตัวสำภาษณ์ครับ.....>>>ข้อมูลเพิ่มเติม<<<
  5. เมื่อได้วีซ่าเอเจนซี่จะมีอบรมปฐมนิเทศก่อนออกเดินทางให้ เพราะฉนันน้องคนใหนที่กลับว่าจะเดินทางไม่เป็น ไม่ต้องกลัว เอเจนซี่เขาจะบอกเราทุกอย่างว่าเราต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง
  6. บินถลาาาาาาา !!! ลัดฟ้าสู่มหานครอเมริกาาาา  :)
  7. บางเอเจนซี่ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเราด้วยที่เอเมริกา ก็นะเขาไม่สามารถมาหาเราได้ ก็แค่โทรได้สะดวกขึ้่นเท่านั้น.....แต่ยังไงก็อุ่นใจว่านั้น ยังไงก็อย่าลืมเช็คกับเอเจซี่ที่จะสมัครนะครับว่าเขาจะตามไปดูและเราหรือเปล่า



ทั้งหมดคือคำถามและคำตอบที่ผมมีก่อนที่ผมจำทำการสมัครเข้าร่วมโครงการ
เลยเอามาแชร์เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย

ขอบคุณครับ
-Tom



อย่าลืมติดตาม
"เกี่ยวกับ Work and Travel Program Episode 03" กันต่อนะครับ


Follow                      Like                       Follow 







Agency

เกี่ยวกับ Work and Travel Program
Episode 01 : Agency

 จะไปเอเจนซี่ไหนดี ? คำถามนี้จะต้องเกินขึ้นทันทีที่เราตัดสินใจจะไป W&T
เพราะฉนั้นมารู้จักกันดีกว่าว่าเอเจซี่เขาทำงานกันยังไง
เอเจนซี่(หรือ Sponsor)แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. เอเจนซี่ที่ดูแลประสานงานในเมืองไทย(Thai Agency) 
2. เอเจนซี่ที่ที่ดูแลเราขณะอยู่ที่อเมริกา(American sponsor หรือ Sponsor Organizations)
Thai Agency จะทำหน้าที่ดังนี้
  • เป็นสปอนเซอร์รับรองเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถทำงานได้
  • วัดระดับภาษาพร้อมทำการสอบภาษาอังกฤษเบื้องต้น
  • คอยดูแลขั้นตอนเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่า J-1
  • ให้ข้อมูลสถานที่ทำงานและที่พัก
  • จัดทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ
  • ให้คำแนะนำและประสานงานในระหว่างที่อยู่ในประเทศไทยและที่อเมริกาตลอดเมื่อเข้าร่วมโครงการจนถึงสิ้นสุดโครงการ  
American sponsor ทำหน้าที่ดังนี้
  • ตรวจสอบนายจ่างเกี่ยวกับการจ้างงาน ในกรนีที่นักเรียนติดต่องานเอง(Indy)
  • คอยประสานงานระหว่างเอเจนซี่ที่ไทยและหน่วยงานรัฐของอเมริกา
  • คอยดูแลผู้เข้าร่วมโครงการระหว่างที่อยู่ในอเมริกา
เลือกบริษัทเอเจนซี่ไหนดีล่ะ? 
          การเลือกแต่ละบริษัทเอเจนซี่จะแตกต่าง ช่วงนี้เดือนมิถุนายนถึงกันยายนจะเป็นช่วงที่บริษัทเอเจนซี่ออกงานตามมหาวิทยาลัยต่างๆมากมาย พร้อมครั้งมีการโฆษณาโปรโมตบริษัทและสถานที่ทำงานในอเมริกาต่าง จึงอยากแนะนำเวลาเลือกบริษัทเอเจนซี่ให้ทำตามดังนี้
  • ประวัติการทำงานของบริษัทเอเจนซี่ ให้สอบถามถึงประวัติของบริษัทเอเจนซี่ว่า เคยเปิดให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการนี้มาแล้วกี่ปี อย่างน้อยสุดที่ผู้เขียนแนะนำบริษัทนั้นควรจะผ่านงานด้านนั้นมาแล้วอย่างน้อย 3-5 ปี
  • จำนวนของนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการแต่ละปีและจำนวนเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยที่ดูแลโครงการในบริษัทเอเจนซี่
  • อัลบั้มภาพถ่ายที่เคยมีผู้เข้าร่วมโครงการในปีก่อน
  • Sponsor ที่อเมริกาที่เป็นผู้ดูแลเราขณะอยู่ที่นั้นชื่ออะไร....ป้องกันการถูกหลอกจากเอเจนซี่ปลอมในไทย
    • ผมกำลังรวบรวมรายชื่อเจนซี่ในเมืองไทยอยุ่ครับเดี่ยวจะเอามาให้ดู
    • ส่วน Sponsor ที่อเมริกามีทั้งหมด 49 หน่วยงานด้วยกันครับ
No. Sponsor Name City State
1 A Cultural Exchange Service, Inc. Riverview FL
2 Alliance Abroad Group, L.P. Austin TX
3 American Australian Association New York NY
4 American Camp and Work Experience Mahwah NJ
5 American Exchange Organization, Inc. Springfield VA
6 American Hospitality Academy Hilton Head SC
7 American Institute For Foreign Study - Campower Program Stamford CT
8 American Pool Enterprises, Inc. Owings Mills MD
9 American Work Adventures, Inc. Novato CA
10 American Work Experience Greenwich CT
11 Apex USA Inc. Clinton OK
12 ASSE International, Inc Laguna Beach CA
13 Camp Counselors USA/Work Experience USA Sausalito CA
14 Camp Wayne for Boys Port Washington NY
15 CampGroup, LLC White Plains NY
16 CENET Cultural Exchange Network Cape Girardeau MO
17 Center for Cultural Interchange Chicago IL
18 Center for International Career Development Seattle WA
19 Council on International Educational Exchange Portland ME
20 CSB International, Inc. Babylon NY
21 Cultural Homestay International San Anselmo CA
22 Cultural Vistas, Inc. New York NY
23 Dynamic Global Exchange, Inc. Duluth GA
24 Educational Resource Development Trust Santa Monica CA
25 GeoVisions Chesterfield NH
26 Global Career Exchange, Inc. Beaufort SC
27 Global Educational Concepts, Inc. Nashville TN
28 Greenwood Lake Gaelic Cultural Society, Inc. Bedford NY
29 ICEPWORLD, USA San Francisco CA
30 InterExchange,Inc. New York NY
31 International Branch, YMCA of Greater NY New York NY
32 International Cultural Exchange Organization Inc. Gold River CA
33 International Culture and Career Exchange, Inc. Los Angeles CA
34 International Educational Exchange, Inc. Hilton Head Island SC
35 International Exchange of North America, Inc. Southbury CT
36 Intrax Work/Travel San Francisco CA
37 Ireland Institute of Pittsburgh Pittsburgh PA
38 Janus International Hospitality Student Exchange Boca Raton FL
39 Life Adventures, Inc. Riverview FL
40 PFIZER INC New York NY
41 Philadelphia International Institute PHILADELPHIA PA
42 Signature Services Corporation Dallas TX
43 Spirit Cultural Exchange Oak Park IL
44 The foundation for Worldwide International Student exchange Marietta GA
45 U.S.-Ukraine Foundation Washington DC
46 United Studies, Inc. Hot Springs AR
47 University of Louisville Louisville KY
48 Walt Disney World Lake Buena Vista FL
49 World Wide Cultural Exchange, Inc. Santa Clarita CA

ที่มา : .http://j1visa.state.gov

********อันที่ 8 Sponsor ของผมเองครับ ลองเช็คดูครับว่า sponsor ที่อเมริกาของคุณอยู่ในนี้หรือเปล่า

อย่าลืมติดตาม
"เกี่ยวกับ Work and Travel Program Episode 02" กันนะครับ

ขอบคุณครับ
- Tom




Follow                      Like                       Follow